วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ประวัติวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า (วัดพระแก้ว) มีประวัติความเป็นมาที่สำคัญ และ ยาวนานในประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมของประเทศไทย ต่อไปนี้คือ ประวัติวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พ.ศ. 2181 ใน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 1) ราชาธิเบศร์ (รัชกาลที่ 4) ได้สั่งให้นำพระแก้วมรกตที่ปรากฏอยู่ในวัดอรุณราชวราราม อำเภอกระทุ่มแพ้ว จังหวัดสมุทรปราการมาเก็บไว้ในอุโบสถของพระบรมมหาราชวังเป็นที่เก็บรักษาในสมัยนั้น พระแก้วมรกตนั้นเป็นวัตถุมงคลที่สำคัญมากในสิริราชสมบัติ และมีความเชื่อว่ามีพลังความบูชามาก จึงได้ถือเป็นวัตถุศิลป์สิริราชสมบัติอย่างสำคัญ
พ.ศ. 2325 ราชาธิเบศร์ (รัชกาลที่ 4) ได้สั่งสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นบนพื้นที่ใกล้เคียงกับพระบรมมหาราชวังเพื่อเก็บพระแก้วมรกตและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและทำพิธีตามประเพณีศาสนาของชาวพุทธ
พ.ศ. 2368 ในสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้ถวายพระราชทาน พระแก้วมรกต ให้วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อให้พระแก้วมรกตเป็นสัญลักษณ์ศูนย์รวมชาวไทยและเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรมและนิกายศาสนาพุทธในประเทศไทย
นับว่าวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนด้วยความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะ และ ประวัติศาสตร์
สถาปัตยกรรมของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญ และ เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย สถาปัตยกรรม ของวัดนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความงดงามของ สถาปัตยกรรมไทย นี่คือบางส่วนของสถาปัตยกรรมที่สำคัญในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- พระแก้วมรกต: วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่รู้จักโดยสิ่งของพระแก้วมรกตที่อยู่ในวัด พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากมรกตชนิดหนึ่ง มีสีเขียวและมีความสำคัญมากในศาสนาและวัฒนธรรมไทย เป็นวัตถุศิลป์ที่ถือเป็นที่ประดิษฐานอย่างสูง ผู้คนจะไปสักการะและเชื่อกันว่าการสักการะข้างพระแก้วมรกตจะนำความโชคดีและคุ้มครองความเป็นศิลป์ไปให้
- พระปรางค์เก้าสี: พระปรางค์ที่เรียกว่า “พระปรางค์เก้าสี” หรือ “พระปรางค์เก้าน้ำตาล” เป็นอาคารที่มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ ตั้งอยู่บนเสาสูงเล็ก ๆ รอบ ๆ ตัวเจดีย์มีเนื้อที่และบริเวณเดินชม สามารถเดินขึ้นไปชมวิวและรอบ ๆ พระปรางค์ได้
- หอพระสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช: หอพระสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (หอพระตากสิน) เป็นอาคารที่สร้างเพื่อระลึกถึงความทรงจำของพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงรัตนโกสินทร์ หรือ ร.9 ที่เสด็จสู่พระศรีรัตนศาสดารามเมื่อ พ.ศ. 2368 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงสิ้นพระชนม์ หอพระสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีสไตล์สถาปัตยกรรมเข้ากับศิลปะไทยโบราณและเป็นที่ประดิษฐานราชสกุลและพระมหากษัตริย์
- เจดีย์พระสรมาสารี: เจดีย์สำหรับเก็บพระราชกุศลของพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงรัตนโกสินทร์ หรือ ร.1 ได้รับการสร้างขึ้นเป็นที่ประดิษฐานและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงรัตนโกสินทร์
สถาปัตยกรรมที่มีในวัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้เป็นเอกลักษณ์และเป็นศรีสวัสดิ์ของวัฒนธรรมไทย มีความเชื่อเห็นว่ามีความสัมพันธ์กับความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกตและพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงรัตนโกสินทร์ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
จิตรกรรมฝาผนังในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
จิตรกรรมฝาผนังในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม และ เป็นเอกลักษณ์ของ วัฒนธรรมไทย ในพระอุโบสถและพระระเบียงของวัดนี้จะมีจิตรกรรมฝาผนังที่ระบายเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระรามเกียรติ์ที่มีความสำคัญในวรรณคดีและประวัติศาสตร์ไทย คุณลักษณะที่เด่นชัดของจิตรกรรมนี้มีดังนี้:
- ความสวยงามและรายละเอียด: จิตรกรรมฝาผนังในวัดพระศรีรัตนศาสดารามมีความงดงามและรายละเอียดที่น่าทึ่ง ผู้จิตรกรได้ใช้เทคนิคการวาดรายละเอียดที่ละเอียดอ่อนและสีสันสวยงามเพื่อสร้างสีสันและความลึกของภาพให้กับงานศิลปะนี้
- เรื่องรามเกียรติ์: จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องรามเกียรติ์ที่เป็นเรื่องราวสำคัญในวรรณคดีไทย นี่เป็นเรื่องราวของการผจญภัยของพระรามเกียรติ์ในการต่อสู้กับมารดาของราฐีราวชน การต่อสู้กับราวชนราคะ และเรื่องราวอื่น ๆ ที่มีความสำคัญในชีวิตของพระรามเกียรติ์
- ความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ไทย: จิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ไทยและวรรณคดีไทย มีบทเรียนและความคิดเชิงปฏิบัติในชีวิตที่ประณีตอย่างชัดเจน
- การสะท้อนวัฒนธรรมและความเชื่อ: จิตรกรรมนี้สะท้อนถึงความเชื่อและวัฒนธรรมที่สำคัญในวรรณคดีและประวัติศาสตร์ไทย ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ความลึกซึ้งของเรื่องราวที่ถูกประดิษฐานในวัด
จิตรกรรมฝาผนังในวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นการสืบทอดประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยผ่านศิลปะอันงดงาม นี่เป็นสิ่งที่ทำให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีค่าในทางศิลปะและประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
พระพุทธรูปในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
นอกเหนือจากพระแก้วมรกตที่เป็นเรื่องราวสำคัญสำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดยังมีพระพุทธรูปอื่น ๆ ที่มีความสำคัญและมีค่าในทางศิลปะและศาสนา นี่คือบางพระพุทธรูปที่สำคัญในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต): เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมากที่สุดในวัด มีความเชื่อว่าเป็นพระแก้วมรกตที่มีพลังความบูชาและปกป้องชาวเมือง
- พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (พระยอดฟ้า): เป็นพระพุทธรูปปางสวรรค์ที่ตั้งอยู่บนทัศนีย์ใหญ่ มีส่วนศีรษะส่วนเล็กที่สูงมาก แสดงถึงพระองค์สร้างสรรค์และความผูกพันของทุกสิ่งในโลก
- พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (พระเลิศหล้านภาลัย): เป็นพระพุทธรูปที่นั่งลงที่ลอยน้ำ มีแต่งกายศิลปะไทยโบราณและมีตำหนิที่ขาซ้าย
- พระสัมพุทธพรรณี: เป็นพระพุทธรูปผู้หญิงที่มีความสงบเสงี่ยมและเป็นแบบอุทิศตนเองในการธรรมะ
- พระชัยหลังช้าง: เป็นพระพุทธรูปที่มีทรงพลังและมั่งคั่ง บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ
- พระคันธารราษฎร์: เป็นพระพุทธรูปที่นั่งบนเหย้าแขนขวาสามารถเหยียบยางพาราได้ แสดงถึงความยินดีในการตายในชุมชนพระพุทธาคม
- พระนาก: เป็นพระพุทธรูปที่นั่งข้างเจ้านายพระบรมมหาราชสมาคม แสดงถึงการมีพระพุทธาคมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
พระพุทธรูปเหล่านี้มีความหลากหลายในด้านรูปทรงและสัญลักษณ์ แต่ทั้งหมดนี้เป็นบรรดามรดกทางศิลปะและศาสนาที่สร้างขึ้นในวัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อเสริมสร้างสัญญาณศิลปะและความเป็นเอกลักษณ์ของวัดและประเทศไทยทั้งสิ้น
บทบาทของวัดพระศรีรัตนศาสดารามในประวัติศาสตร์ไทย
วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นศูนย์กลางของพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ของราชสำนักไทยมาช้านาน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม :: ancientsites